นายกสมาคมชาวนา เสนอ 5 ข้อเรียกร้องถึง รมว.เกษตรฯ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้ชัดเจนเรื่องแผนแก้ภัยแล้งระยะยาว เผยปลายเดือน ก.ย.นี้ น้ำในเขื่อนภาคอีสานขาดแคลนหนัก ไม่มีน้ำทำนา ผลผลิตราคาสูง แต่ชาวนาต้องแบกต้นทุน เป็นหนี้สะสม ส่วนโครงการพักหนี้ 3 ปี ควรหยุดทั้งต้นและดอกเบี้ย เพราะที่ผ่านมาดอกเบี้ยยังเดิน จนชาวนามีหนี้ทับถมหนัก
ปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ถึงปัญหาของเกษตรกรชาวนา หลังทราบว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลใหม่ โดยการนำของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า ชาวนาหลายพื้นที่กำลังประสบปัญหากับเอลนีโญ ทำให้เกิดภัยแล้งขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูก จึงควรเร่งวางแผนหาแหล่งน้ำให้กับเกษตรกร
“การเกิดภาวะเอลนีโญทำให้ชาวนามีหนี้สะสมมากขึ้น รัฐบาลควรมีการพักหนี้ทั้งต้นและดอกเบี้ย ที่ผ่านมาแม้มีการพักชำระหนี้ แต่ดอกเบี้ยยังเดินอยู่ ทำให้ชาวนามีหนี้เพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยของธนาคาร ที่ผ่านมาชาวนาทำได้มาก็ต้องไปจ่ายหนี้ ธ.ก.ส. จ่ายเสร็จต้องไปกู้เงินมาลงทุนใหม่ ยิ่งมีภัยแล้งรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก 3-4 ปี จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวตามมาด้วย”
ส่วนต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นเนื่องจากน้ำมัน ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช มีราคาสูงขึ้น แต่ถ้ามีภัยแล้งเข้ามาอีกจะทำให้ชาวนาต้องไปหาแหล่งน้ำ ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ตอนนี้ต้นทุนการทำนาอยู่ที่ 5,500-6,000 บาท/ไร่ จากเดิมต้นทุนอยู่ที่ 4,000-5,000 บาท/ไร่ จึงอยากให้มีแผนในการลดต้นทุนที่ชัดเจน เพราะยังไม่เห็นมาตรการใดออกมา ขณะที่ชาวนาในพื้นที่อีสาน ช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้จะได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำ เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนเริ่มลดลงจนมีสัญญาณว่าชาวนาในอีสานจะต้องหยุดทำนาปรัง
“ตอนนี้ชาวนาอยู่ได้เพราะราคาข้าวยังสูง แต่ต่อไปพอเข้าสู่ช่วงทำนาปรัง น้ำไม่มีทำนา ชาวนาจะยิ่งแย่ และส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคต้องซื้อข้าวราคาสูง โดยผลประโยชน์จากการเก็งกำไรราคาข้าวไปตกอยู่ที่พ่อค้าคนกลาง เนื่องจากตอนนี้ราคาข้าวไทยพุ่งสูง เพราะอินเดียไม่ได้ส่งออกข้าวขาวออกมา ทำให้ข้าวไทยเป็นที่ต้องการ ถ้าในเดือนหน้าปลูกข้าวไม่ได้อีก ราคาข้าวในไทยอาจพุ่งสูงกว่าตอนนี้อีกเท่าตัว”
ช่วงที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงมีนโยบายเปลี่ยนที่นาให้เป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพด แต่ชาวนาส่วนใหญ่ยังมองว่าทำไม่ได้ เพราะตลาดรับซื้อไม่มีรองรับ และถ้าเปลี่ยนมาปลูกข้าวโพดในหลายพื้นที่ราคาพืชผลก็ตกต่ำ การที่รัฐจะทำได้ต้องมีการประกันราคาการขายข้าวโพดที่เกษตรกรยอมรับ ส่วนการนำข้าวโพดไปเป็นอาหารสัตว์ก็ไม่ได้มีความต้องการมาก เพราะทุกวันนี้มีการนำปลายข้าวไปทำเป็นอาหารสัตว์อยู่แล้ว
5 ข้อเรียกร้องชาวนา ถึงรัฐบาลใหม่
ปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยถึง 5 ข้อเรียกร้องถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือชาวนาคือ 1.หาแหล่งน้ำให้เกษตรกร 2.ลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร โดยต้องมีการควบคุมราคาให้เหมาะสม 3.พักหนี้สินให้เกษตรกร 4.หาเมล็ดพันธุ์ข้าวชนิดใหม่ที่ใช้เวลาปลูกไม่นาน แต่ให้ผลผลิตสูง ทนต่อสภาวะแห้งแล้ง 5.มีสวัสดิการให้ชาวนาที่ปลดเกษียณหลังอายุ 60 ปี เดือนละ 3,000 บาท
“รัฐบาลชุดใหม่มองแต่เรื่องเศรษฐกิจ แต่ยังไม่เห็นพูดถึงชาวนา เพราะนักการเมืองมองพวกเราอยู่ลำดับสุดท้าย ทั้งที่ชาวนามีกว่าสี่ล้านหกแสนครัวเรือนทั่วประเทศ ถ้าเป็นรัฐบาลในต่างประเทศจะให้ความสำคัญกับชาวนา แต่รัฐบาลชุดนี้กลับยังไม่มีความชัดเจน จึงอยากให้ท่านเข้ามาวางแผนนโยบายร่วมกับชาวนาให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นกว่านี้”.
